xs
xsm
sm
md
lg

รัฐบาลทหารเกณฑ์โรฮิงญาเข้าฝึกทหารอีก 300 คน เตรียมพร้อมส่งรบแนวหน้า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



MGR ออนไลน์ - ชายชาวโรฮิงญามากกว่า 300 คน จากหมู่บ้านใกล้เมืองเอกของรัฐยะไข่ ถูกบังคับให้เข้าร่วมการฝึกทหารของกองทัพในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ชาวบ้านเปิดเผยกับสำนักข่าววิทยุเอเชียเสรีวานนี้ (25)

การเกณฑ์ทหารรอบล่าสุดในหมู่ชนกลุ่มน้อยมุสลิมไร้สัญชาตินี้ เกิดขึ้น 1 เดือนหลังจากชาวโรฮิงญาประมาณ 1,000 คน จากที่ต่างๆ ในรัฐยะไข่ ถูกสั่งให้เข้าร่วมกองทัพเมื่อเดือน มี.ค.

แต่ทั้งนี้ ชายหนุ่มในพม่ามากกว่า 100,000 คน ได้หลบหนีออกจากบ้านนับตั้งแต่กองทัพประกาศในเดือน ก.พ. ว่าจะดำเนินการตามกฎหมายเกณฑ์ทหาร เพื่อเสริมกำลังพล หลังกองทัพพ่ายแพ้ในสนามรบหลายครั้ง

พม่าได้รับผลกระทบจากสงครามกลางเมืองนับตั้งแต่กองทัพโค่นล้มรัฐบาลพลเรือนในการรัฐประหารปี 2564 ท่ามกลางความพ่ายแพ้ในสนามรบในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา กองทัพระบุว่า มีแผนที่จะเกณฑ์ชายหนุ่มและหญิงสาวเข้าเป็นทหาร 50,000 คนต่อปี และบังคับเกณฑ์ชาวโรฮิงญาในรัฐยะไข่เพื่อเสริมให้ครบตามจำนวนดังกล่าว

การเกณฑ์โรฮิงญาเป็นทหารเกิดขึ้นในรัฐที่เมื่อ 7 ปีก่อน ทหารได้ทรมาน ข่มขืน และสังหารชาวโรฮิงญาหลายพันคน และทำให้โรฮิงญาเกือบ 1 ล้านคนต้องอพยพหลบหนีเข้าไปในบังกลาเทศ

โรฮิงญา 300 คนชุดล่าสุด ถูกนำตัวมาจากหมู่บ้านต่างๆ กว่า 30 แห่งในเมืองสิตตะเวในสัปดาห์นี้ และทั้งหมดมีอายุระหว่าง 18-30 ปี ตามการเปิดเผยของผู้ดูแลหมู่บ้านโรฮิงญา

พวกเขาถูกนำตัวขึ้นรถตำรวจไปยังกองบัญชาการภูมิภาคของกองทัพในเมืองสิตตะเวเพื่อเตรียมเข้ารับการฝึก

ในตอนนี้ ทหารกำลังกดดันให้ผู้ที่ยังคงอยู่ตามหมู่บ้านและค่ายผู้พลัดถิ่นภายในประเทศเข้ารับราชการทหาร ในความพยายามของกองทัพที่จะต่อต้านกองทัพอาระกัน และเพื่อแลกเปลี่ยนกับการรับใช้ชาติ รัฐบาลทหารให้สัญญาว่า โรฮิงญาที่เข้าร่วมการต่อสู้จะได้รับเสรีภาพในการเคลื่อนไหว รวมถึงอาหารและเงินจำนวนเล็กน้อย

เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลทหารได้สื่อสารผ่านผู้อาวุโสและผู้ดูแลหมู่บ้านระหว่างกระบวนการเกณฑ์ทหาร ตามการระบุของหญิงโรฮิงญาที่อาศัยอยู่ในเมืองสิตตะเว

“เจ้าหน้าที่โน้มน้าวชาวบ้านด้วยบัตรประชาชนและเงินเดือน พวกเขาบังคับผู้อาวุโสในหมู่บ้านให้หาเด็กโรฮิงญามาทำหน้าที่ปกป้องประเทศ แต่เยาวชนโรฮิงญาส่วนใหญ่เป็นชาวประมง พวกเขาจึงไม่เหมาะกับการรับราชการทหาร” หญิงชาวโรฮิงญา กล่าว และว่าไม่มีผู้ถูกเกณฑ์คนใดเต็มใจเข้ารับการฝึกทหาร แต่พวกเขาอาจถูกจับกุมและทุบตีหากปฏิเสธ

“ผู้คนในรัฐยะไข่กังวลอยู่ตลอดเวลาเกี่ยวกับการฝึกทหาร บางคนหนีออกจากบ้านไปอยู่ที่อื่น” ผู้ดูแลหมู่บ้านกล่าว

โรฮิงญา 1,000 คน ที่ถูกเกณฑ์ในเดือน มี.ค. ได้รับการฝึกอบรมเป็นเวลา 2 สัปดาห์ หลังจากนั้นพวกเขาบางส่วนถูกส่งไปสนามรบ ขณะที่บางส่วนถูกส่งกลับไปที่หมู่บ้านหรือค่ายผู้พลัดถิ่นภายในประเทศในฐานะกำลังสำรอง ชาวบ้านกล่าวกับวิทยุเอเชียเสรี

นับตั้งแต่ พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ประกาศบังคับใช้กฎหมายเกณฑ์ทหาร เมื่อวันที่ 10 ก.พ. กองกำลังทหารทั่วประเทศพยายามกดดันคนจำนวนมากให้เข้าร่วมกับกองทัพ

กฎหมายกำหนดให้ชายและหญิงอายุ 18-35 ปี เข้ารับราชการในกองทัพเป็นเวลา 2 ปี ซึ่งส่งผลให้คนหนุ่มสาวมากกว่า 100,000 คน หลบหนีออกจากบ้านเพื่อเลี่ยงการเกณฑ์ทหาร

รายงานระบุว่ามรัฐบาลทหารได้ดำเนินการบังคับใช้กฎหมายเกณฑ์ทหารตามเมืองต่างๆ 224 แห่งทั่วประเทศ และนับจนถึงสิ้นเดือน มี.ค. มีชายหนุ่มราว 5,000 คน ถูกส่งตัวไปค่ายฝึก 15 แห่ง

นอกจากนี้ ยังมีคนหนุ่มสาวอีกมากกว่า 2,000 คน จาก 40 เมืองทั่วประเทศ ถูกเกณฑ์เป็นกองทหารอาสา ซึ่งในจำนวนนี้รวมถึงชาวโรฮิงญาที่ถูกคัดเลือกในเดือน มี.ค.ด้วย

ชาวเมืองมัณฑะเลย์กล่าวว่า ผู้คนต่างจับตาดูกระบวนการเกณฑ์ทหารที่เริ่มขึ้นอีกครั้งอย่างกระวนกระวายใจ ด้วยในตอนนี้เทศกาลน้ำได้สิ้นสุดลงแล้ว

“คาดว่าพวกเขาจะเริ่มเกณฑ์คนอีกครั้งในเดือน พ.ค. ผู้คนต่างสงสัยกันว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากเทศกาล” ชาวเมืองมัณฑะเลย์รายหนึ่ง ระบุ

ในท้ายที่สุดแล้ว ทหารเกณฑ์ใหม่เหล่านี้จะถูกเรียกตัวให้เข้าร่วมปฏิบัติการสู้รบในแนวหน้า อดีตนายทหารที่เข้าร่วมขบวนการอารยขัดขืนหลังการรัฐประหารระบุ.

สมาชิกสภาบริหารแห่งรัฐ (SAC) เดินแจกแผ่นพับอธิบายกฎหมายเกณฑ์ทหารให้ประชาชนตามเมืองต่างๆ.
กำลังโหลดความคิดเห็น